ศาลแขวงพิษณุโลก ได้จัดทำโครงการ "เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน" เพื่อแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 21 - 22 มกราคม 2560วัดป่าน้ำโจน ตำบลพันชาลี อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก... ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยค่ะ
ในตอนบ่ายของวันเสาร์ ที่ 21 มกราคม 2560 ...คณะของศาลแขวงพิษณุโลก ได้ทำพิธีกล่าวเปิดโครงการ ณ "ศาลาปราบเซียน" ของ วัดป่าน้ำโจน
คุณทัศนีย์   กลิ่นเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานประจำศาลแขวงพิษณุโลก...ได้กล่าวนำในการเปิดโครงการ
ท่านมาลี   สิรินิจศรีวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพิษณุโลก...กล่าวเปิดโครงการ และกราบนิมนต์ท่านพระอาจารย์บอกสอนคณะศาลแขวง ที่ได้จัดทำโครงการมาในครั้งนี้
ท่านพระอาจารย์อังคาร   อัคคธัมโม วัดป่าน้ำโจน ...ได้เมตตาให้ข้อคิด คติในการดำรงตนให้เหมาะสม
กับเพศ ภาวะ สถานะ กาละเทศะ เพื่อนำซึ่งความเจริญต่อตนเองและส่วนรวม ต่อไป
ท่านมาลี   สิรินิจศรีวงศ์
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวง
พิษณุโลก
ท่านเสวียง   แก้วทอง
ผู้พิพากษา ศาลแขวงพิษณุโลก
ท่านมนต์ชัย   สิรินิจศรีวงศ์
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล
จังหวัดสุโขทัย
                                                                                 "ข้าฯ รองบาท"
         "..."ในหลวง" ในพระบรมโกศท่านทรงงานหนักเพื่อคนอื่น หวังให้คนอื่นมีความสุขหรือทุกข์น้อยที่สุด...ไม่ได้คาดหวังจะให้ใครมารักหรือมาสรรเสริญเยินยอ...ไม่ได้คาดหวัง "คะแนนเสียง" จากผู้หนึ่งผู้ใด...บนพื้นฐานของความยากลำบากภายนอก มันจึงมีสภาวะของความปลื้มปิติ...ความเป็นสุขหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน...
         ถ้าจงรักภักดีอยากเป็นข้าฯ รองบาททุกชาติไปอย่างที่พูด ก็หัดที่จะเรียนรู้การ "เสียสละ" แล้วก็ "เสียสละ" ...เพื่อผู้อื่นเท่านั้นแหละ ...ได้เป็นข้าฯ รองบาททุกชาติไปแน่...เพราะตลอดพระชนม์ชีพพระองค์ทำเพื่อผู้อื่นทั้งนั้น...เวลา "เหนื่อย" เวลา "ท้อ" ...นึกถึงพระองค์เข้าไว้...
"ข้าฯ รองบาท" ...เราไม่ได้เสี้ยวของพระองค์หรอก..."

                                                                                     (บางตอนในการบรรยายธรรม โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร    อัคคธัมโม)
ฟังด้วยความตั้งใจ
ร่วมกันถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
กิจกรรมในตอนบ่าย...ดูแลเสนาสนะ กวาดลานวัด
ร่วมแรงแข็งขันในการทำความดี
กิจกรรมในตอนค่ำ
ได้รวมตัวกันที่ศาลาของวัดอีกรอบเพื่อ...ฟังธรรม
                                                                                                                           " ชีวิตที่มีคุณภาพ"
   "...อย่าพยายามที่จะเรียกร้องให้คนอื่นมายอมรับตัวเองแต่หัดที่จะเรียนรู้การยอมรับคนอื่นน่าจะเป็นเรื่องง่ายกว่าและดีที่สุด...ในการที่จะไปอยู่ร่วมกับผู้อื่นในองค์กรนั้น ๆ สังคมนั้น ๆ ...
          ก่อนหลับก่อนนอนก็หัดก็ฝึกที่จะเรียนรู้...การอดทน....การผิดหวัง...การยับยั้งชั่งใจ...การทำใจแล้วก็การปล่อยวางด้วยการนั่งสมาธิจิตภาวนา...กำหนดรู้อยู่กับลมหายใจเข้า "พุท" ลมหายใจออก "โธ" หรือจะบริกรรมแต่ "พุทโธ" อยู่ภายในใจโดยไม่ยุ่งกับลมหายใจก็ได้ ตามแต่อัธยาศัย...เพื่อสร้าง "สติ" ให้เข้มแข็ง "จิต" จะได้มี "กำลัง" กระบวนการคิดวิเคราะห์จะได้มีคุณภาพ...กระบวนการคิดวิเคราะห์ที่มีคุณภาพเท่านั้นถึงจะสามารถเป็น "ภูมิคุ้มกันจิต" ไม่ให้เศร้าหมองจากสิ่งเร้าที่ผ่าน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้...เพราะเรามีชีวิตมีประสาทสัมผัส เราปฏิเสธสิ่งเร้าไม่ได้อยู่แล้ว..."ตา" กระทบ "รูป" ..."หู" กระทบ "เสียง" ฯลฯ มันต้องเกิดความรู้สึกอยู่แล้ว แต่ "ความรู้สึก" ไม่ใช่กิเลส ..."ความสำคัญมั่นหมาย" ในความรู้สึกนั้น ๆ ต่างหากเป็นกิเลส...ทำยังไงจะดักมันทันล่ะในเมื่อมันเป็นความรู้สึก ไม่ได้มีตัวตนทางกายภาพ...มีแต่ "สติ" ที่เข้มแข็งเท่านั้นถึงจะสามารถทำให้ "จิต" มีกำลัง สามารถ "วิเคราะห์" สิ่งเร้าให้เป็น "ปัญญา" หล่อเลี้ยงจิตใจตัวเองได้...เหมือนใบไม้ที่มี "คลอโรฟิลด์" พอกระทบกับ "แสงแดด" ก็สามารถที่จะ "สังเคราะห์แสง" ผลิตอาหารหล่อเลี้ยงตัวเองได้ไง...
          ค่อย ๆ ทำไปจากน้อยไปหามาก ทำบ่อย ๆ มันก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เองหรอก...สังเกตดูในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นหรืออยู่คนเดียว...ถ้ารู้สึกอึดอัดขัดข้องก็แสดงว่าไปนั่ง "เพาะกิเลส" มา ...แต่ถ้าหากว่าอยู่สบาย รู้สึกยืดหยุ่นไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนวุ่นวาย...ก็แสดงว่าไปนั่ง "สำรอกกิเลส" มา...มันก็เลยโปร่งเบาขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตดูเอานั่นล่ะ "ปฏิบัติธรรม" ล่ะ!!!..."
                                                                                                                                                             
                                                                                                                                        (บางตอนในการบรรยายธรรม โดย ท่านพระอาจารย์อังคาร   อัคคธัมโม)
ต่อจากนั้น...ท่านพระอาจารย์
นำสวดมนต์ทำวัตรเย็น
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ.

พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง
ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ.
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว , ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระธรรม
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ.
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ 
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
, ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง.
   นัตถิเม สะระณัง อัญญัง     พุทโธ เม สะระณัง วะรัง   เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ  โสตถิเม โหตุสัพพะทา   
   ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี     พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า   ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้   ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้า
ต่อจากนั้นท่านพระอาจารย์นำนั่งสมาธิภาวนา
***บุญอย่างยิ่งคือบุญแห่งการภาวนา***
" ทำให้มากเจริญให้มากซึ่งลมอัสสาสะ - ปัสสาสะ กายย่อมไม่หวั่นไหว จิตย่อมไม่หวั่นไหว "
...แผ่เมตตาหลังจากนั่งภาวนาเสร็จ... 
สาธุ...บุญกุศลใดหากเกิดขึ้นแล้วมีขึ้นแล้วแก่ข้าพเจ้านี้ ก็ขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย อยู่ในวัฏสงสารนี้
ทุกผู้ทุกคน
ทุกรูปทุกนาม ทุกตัวทุกตน โดยเฉพาะองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงคุณของแผ่นดิน
ที่เสด็จสวรรคตไปแล้ว ขอจงเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญนี้ด้วย หากตกทุกข์ก็ขอให้พ้นจากทุกข์ ถ้าถึงสุขแล้วก็ขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ...สาธุ
ท่านพระอาจารย์อนุโมทนาให้พรก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อน
ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกเมื่อเทอญฯ
ภาคเช้า...ของวันที่ 22 มกราคม 2560
นี่แหละ..."ธรรมะแห่งการอยู่ร่วม" ในผู้มีธรรม
เตรียมพร้อมใส่บาตรท่านพระอาจารย์
"ท่านมาลี" ...นำคณะใส่บาตรท่านพระอาจารย์ เพื่อสร้างบารมีทาน
คณะจากศาลแขวงพิษณุโลก และผู้มาพักปฏิบัติธรรม ร่วมกันทำบุญตักบาตร
บรรยากาศในการใส่บาตรทำบุญของ... "ผู้มีบุญ"
คุณยายนันทนา   นาคอินทร์ ผู้บุกเบิกวัดป่าน้ำโจน
ท่านเสวียง   แก้วทอง ผู้พิพากษา ศาลแขวงพิษณุโลก
คุณจีรพงษ์   นิรัญศิลป์ นิติกร ศาลแขวงพิษณุโลก
"คุณหนุ่ม"...ผู้ใฝ่ธรรม
***ขออนุโมทนาบุญในกุศลจิตกับทุก ๆ ท่าน ด้วยนะคะ***
คุณสายหยุด   ศรีธรรมมา
ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.สุโขทัย
นพ.จักรรินทร์   รัชวิจักขณ์ เวชศาสตร์ป้องกัน
รพ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
ท่านมนต์ชัย   สิรินิจศรีวงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จังหวัดสุโขทัย และ
ท่านมาลี   สิรินิจศรีวงศ์
ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวง พิษณุโลก
บรรยากาศในช่วงถวายจังหัน
สาธุ...ในผลทาน
ท่านพระอาจารย์อนุโมทนาให้พรแก่ญาติโยม
อายุโท พะละโท  ธีโร  วัณณะโท  ปะฏิภาณะโท, ผู้มีปัญญา ให้อายุ ให้พละ วรรณะ และปฏิภาณ
สุขัสสะทาตา  เมธาวี  สุขัง  โส  อะธิคัจฉะติ, ผู้มีปัญญา ให้ความสุข ย่อมได้ ประสพสุข
อายุง ทัตวา พะลัง วัณณัง สุขัญจะ ปะฏิภาณะโท, บุคคลผู้ ให้อายุ พละ วรรณะ สุขะ และปฏิภาณ
ทีฆายุ ยะสะวา โหติ ยัสถะ ยัตถูปะปัชชะตีติ, บังเกิดในที่ ใด ๆ ย่อมมี ความสุข มีอายุยืน มียศ ในที่นั้น ๆ ดังนี้
สัพพะ พุทธานุภาเวนะ ,ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
สัพพะ ธัมมานุภาเวนะ ,ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมทั้งปวง
สัพพะ สังฆานุภาเวนะ ,ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ทั้งหลาย
สะทาโสตถี ภะวันตุเต ,ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกเมื่อเทอญ
รับประทานอาหารร่วมกัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * *
ขออนุโมทนาบุญกุศลที่ท่านได้ทำแล้วด้วยค่ะ...ขอให้ท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะคะ...สาธุ ...สาธุ...สาธุ